ปีกจรวดแห่งเขี้ยวสมุทร เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์

ปีกจรวดแห่งเขี้ยวสมุทร เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์


เชื่อได้เลยว่าหากแข้งวัย 24 ปีรายนี้ ไม่ได้รับบาดเจ็บไปเสียก่อน ชื่อของเจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ต้องถูกเรียกเข้าไปติดทีมชาติชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียนที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะนี่ถือเป็นนักเตะที่มีฟอร์มการเล่นกับทีมที่ไม่ได้มีทรัพยากรนักเตะคุณภาพมากมายนัก แต่เขากลับช่วยให้ทีมมีฟอร์มการเล่นที่ดีสู้ได้ทุกทีมในลีกตลอดเรื่อยมา และหลายคนก็เชียร์ให้เขาได้รับโอกาสไปเล่นที่เจลีกอีกด้วย ปีกจรวดจอมกระชากจาก สมุทรปราการ ซิติ้ เท่ห์ “เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์”

เขามีความสูงเพียง 167 เซนติเมตร เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี เกิดวันที่ 18 พฤษภาคม 2540 ในครอบครัวที่ทำอาชีพเกษตรกร โดยคุณพ่อของเขาก็เป็นนักฟุตบอลประจำท้องถิ่นอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เล่นเป็นอาชีพอะไร ทำให้เท่ห์ได้ซึมซับกีฬาฟุตบอลมาจากคุณพ่อ และเริ่มเล่นฟุตบอล ในอายุ 8 ขวบ ที่โรงเรียนบ้านไผ่สี ในช่วงพักกลางวันหรือหลังเลิกเรียน เขาก็จะเอาลูกฟุตบอลมาเล่นกับเพื่อนๆฝึกเลี้ยงฝึกยิงอย่างสนุกสนาน จนทำให้คุณครูที่เป็นโค้ชชวนไปเล่นเป็นตัวโรงเรียน ทำให้เขาเริ่มที่จะเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา หลังจากจบประถมศึกษา เจ้าเท่ห์ได้ตัดสินใจไปเทสต์ฝีเท้าเข้าเรียนทุนในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนกีฬานครปฐม ที่นั้นทำให้เขาได้รับโอกาสลงเล่นในรายการต่างๆระดับประเทศ ฝีเท้าของเขาได้ไปสะดุดตาของ โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ ที่คุมทีม แอร์ฟอร์ช เซ็นทรัล เอฟซี อยู่ในตอนนั้นและได้ทำการดึงตัวเขามาร่วมทีมทันที ทำให้เขาเลือกที่จะโฟกัสกับฟุตบอลอย่างเต็มตัวในวัย 18 ปี ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2560 เป็นก้าวแรกที่ทำให้เขาเล่นฟุตบอลอาชีพได้อย่างเต็มตัว

เขาได้เรียนรู้โลกการเป็นนักฟุตบอลอาชีพว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรทั้งในสนามและนอกสนาม การได้ถูกบ่มเพาะฝีเท้าจากโค้ชเตี้ย ทำให้เขาสร้างผลงานที่ดีให้กับทีมได้ แต่ก็ไม่ได้รับการต่อสัญญากับทีมแต่อย่างใดทำให้เขาอยู่กับแอร์ฟอร์ชได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก่อนจะถูกเสนอขายให้หลายๆทีมในไทยลีก แต่ด้วยความที่เขามีรูปร่างเล็กทำให้ยังไม่ได้รับความสนใจจากหลายๆทีมมากนัก จนทีมพัทยา ยูไนเต็ด ที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงไปเป็นสมุทรปราการซิตี้ ได้ดึงเขาเข้ามาร่วมทีมเพราะกำลังจะประกอบร่างสร้างทีมขึ้นมาในยุคใหม่ในปี 2018 โดยมีโค้ชอั๋น สุรพงษ์ คงเทพ ที่เล็งเห็นสปีดความเร็วในตัวของเจ้าเท่ห์ ทำให้เขาถูกดันไปเล่นในตำแหน่งปีกขวา จนระเบิดฟอร์มออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นกำลังหลักให้กับสมุทรปราการซิตี้มาจนถึงปัจจุบัน

เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในนามทีมชาติให้แฟนบอลไทยได้พูดถึงในทัวร์นาเมนต์ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชียต้นปี 2020 ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ หลังจากที่เขาเคยติดทีมชาติมาในชุด 19 ปี 21 ปี และชุดซีเกมส์ แต่ยังไม่สามารถทำผลงานได้โดดเด่นมากนัก จนมารายการ ยู-23 ชิงแชมป์เอเชียที่ไทยเป็นเจ้าภาพเขาได้โชว์ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมให้เป็นที่ประจักษ์แก่คนไทย ความเร็วที่พร้อมกระชากคู่แข่งไปในพริบตา จังหวะการจ่ายบอลที่ทำให้ทีมมีโอกาสทำประตูอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งการจบสกอร์ที่เฉียบคมในกรอบเขตโทษ และในรายการเขาก็เป็นผู้เล่นที่คว้าดาวซัลโวเอเชียในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มาได้ ด้วยจำนวน 3 ประตู ทำให้ชื่อเสียงของเป็นที่พูดถึงมากขี้นในวงการลูกหนังไทย แต่เขาก็คอยเตือนตัวเองไว้เสมอว่า ต้องรู้สถานะตัวเองว่าเราคือนักฟุตบอล ต้องซ้อมอย่างจริงจรังอย่าหยุดพัฒนา และดูแลรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมเสมอยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงมากเพียงใดก็ตาม เพราะเจ้าเท่ห์เป็นคนที่จริงจังกับฟุตบอลมาก

ในฤดูกาล 2021/2022 ทีมเขี้ยวสมุทรได้เสียนักเตะตัวหลักของทีมไปให้กับรรดาทีมใหญ่หลายๆคน ทำให้ทุกคนมองว่าสมุทรปราการซิตี้อาจจะต้องเป็นทีมที่ต้องลุ้นหนีตกชั้นในฤดูกาลนี้จากการเสียนักเตะตัวหลักหลายๆคนไป แต่ตัวของเจริญศักดิ์ไม่ได้คิดแบบนั้นเพราะมันเป็นวิถีฟุตบอลที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ขอแค่เพียงแฟนบอลยังสนับสนุนและให้กำลังใจทีมต่อไปเขาก็จะทำอย่างเต็มที่ให้กับสโมสร แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บในเกมที่สมุทรปราการเปิดบ้านเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-1 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 จาการตรวจMRI พบว่า หมอนรองกระดูกเข่าด้านขวาฉีก ต้องพัก 4-6 เดือน ทำให้เขาต้องปิดฉากกับทีมในเลกแรกและกับทีมชาติไทยที่มีภารกิจทวงแชมป์อาเซียนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาเริ่มกลับมาซ้อมกับทีมได้บ้างแล้วแต่ก็ยังต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการเรียกความฟิต

แต่ถือว่าการดูแลสภาพร่างกายของเขาหลังพักฟื้นอาการบาดเจ็บ เขากลับมาได้เร็วกว่าที่คาดพอสมควรจากระเบียบวินัยในตัวเขาที่เข้ายิมรักษาสภาพร่างกายไว้ให้ดีอยู่เสมอ หลายๆคนคงยังไม่ลืมปีกจรวดรายนี้อย่างแน่นอนเพราะฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเขาที่เคยได้ทำเอาไว้ก่อนที่จะได้รับอาการบาดเจ็บนั้นมันยังคงเตะตาแฟนบอลชาวไทยอยู่ และเขาก็ยังเคยมีข่าวกับทีมในเจลีก 2 มาแล้วด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ขอเลือกโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดก่อน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเชื่อได้เลยว่าเขาจะเป็นนักเตะอีก 1 คน ที่ได้ไปค้าแข้งในลีกต่างแดนอย่างแน่นอน

ดูข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Goalstorm

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“โค้ชเตี้ย” ฉุนขาด ฝากคำถามถึง ผตส. ไม่เห็นจังหวะสับศอก จริงหรือ และ จังหวะนี้ถือการทำร้ายคู่ต่อสู้หรือไม่?

พ่อมดน้อยจากแดนไกล จานฟรังโก้ โซล่า

เด็กไทยในแดนกระทิงดุ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว